วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

                                                              วิจารณ์หนัง





               คำจำกัดความที่ดิฉันมีให้หนังเรื่องนี้ก็คงเป็นว่า หนังสนุก เนื้อเรื่องเล่าได้พอเหมาะ แต่อาจจะไม่ได้มันส์ระเบิดระเบ้ออะไรว่าง่ายๆ คือถ้าคาดหวังแอ็กชันมันส์ๆ เร้าๆ ล่ะก็ คงต้องขอให้เผื่อใจไว้บ้างครับ
แต่ที่หนังออกมาเป็นสไตล์นี้ผมก็ไม่แปลกใจนะ เพราะดูจากหน้าหนังแล้ว มันออกแนวซูเปอร์ฮีโร่สายแฟนตาซีเหนือจริงแบบ Thor มากกว่าจะเป็นหนังฮีโร่สายแอ็กชันจัดหนักแบบ Iron Man หรือ Captain America
หนังก็แนะนำให้เรารู้จักกับด็อกเตอร์สเตรนจ์ (Benedict Cumberbatch) ศัลยแพทย์ขั้นเทพที่ประสบอุบัติเหตุจนมือของเขาไม่สามารถผ่าตัดได้เหมือนเก่า แต่เขาก็ยังพยายามที่จะฟื้นฟูมือทั้งสองด้วยทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
และในที่สุดเขาก็เดินทางไปถึงเนปาล ได้พบกับเอนเชียน วัน (Tilda Swinton) ผู้ที่เบิกเนตรให้เขาได้รู้จักกับพลังอำนาจเวทย์มนต์ อีกทั้งความจริงของมิติต่างๆ ในจักรวาล แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องเผชิญกับ เคซิเลียส (Mads Mikkelsen) อดีตศิษย์ของเอนเชียน วันที่ถูกครอบงำด้วยด้านมืด
ดูจบแรกๆ ดิฉันไม่ได้ชอบหนังในทันทีนะครับ คืออารมณ์ตอนออกจากโรงมันประมาณว่า ก็สนุกดีแต่เหมือนใจมันบอกว่ายังไม่สุด ครั้นพอเวลาผ่านไปสักครึ่งวัน สมองและอารมณ์ก็เริ่มประมวลผลจนได้ข้อสรุปว่า หนังทำได้ดีในแนวทางของมัน เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้มีลูกเล่นหรือความหวือหวามาชูรสเท่านั้นเอง
และอยากจะบอกว่าลึกๆ แล้วดิฉันเริ่มรู้สึกว่าหนังฮีโร่ Marvel เรื่องนี้ รสชาติแปลกออกไป เพราะดูแล้วรู้สึกถึง ความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจึงไม่แปลกที่ความสนุกอร่อยลิ้นบางชนิดจะลดลงไปบ้าง
ถึงจุดนี้ก็แอบรู้สึกเหมือนกัน ว่าเราก็คงติดลูกเล่นในหนัง เหมือนติดรสหวานในอาหารนั่นแหละ ดังนั้นดิฉันเชื่อว่าหากท่านสามารถปรับใจได้ก่อนดู ก็น่าจะสนุกกับหนังได้มากขึ้นพอสมควรล่ะครับ

สิ่งแรกที่ผมชอบคือเนื้อเรื่องครับ ชอบที่ทีมงานเน้นเล่าแค่พล็อตที่มันหลักๆ ไม่ได้มีพล็อตรองอะไรมากมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะหนังหลายเรื่องสนุกน้อยลงเพราะพล็อตทั้งหลักทั้งรองมันเยอะเกินไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น