วิจารณ์หนัง
แต่ที่หนังออกมาเป็นสไตล์นี้ผมก็ไม่แปลกใจนะ
เพราะดูจากหน้าหนังแล้ว มันออกแนวซูเปอร์ฮีโร่สายแฟนตาซีเหนือจริงแบบ Thor มากกว่าจะเป็นหนังฮีโร่สายแอ็กชันจัดหนักแบบ
Iron Man หรือ Captain America
หนังก็แนะนำให้เรารู้จักกับด็อกเตอร์สเตรนจ์
(Benedict Cumberbatch) ศัลยแพทย์ขั้นเทพที่ประสบอุบัติเหตุจนมือของเขาไม่สามารถผ่าตัดได้เหมือนเก่า
แต่เขาก็ยังพยายามที่จะฟื้นฟูมือทั้งสองด้วยทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
และในที่สุดเขาก็เดินทางไปถึงเนปาล ได้พบกับเอนเชียน
วัน (Tilda
Swinton) ผู้ที่เบิกเนตรให้เขาได้รู้จักกับพลังอำนาจเวทย์มนต์
อีกทั้งความจริงของมิติต่างๆ ในจักรวาล แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องเผชิญกับ เคซิเลียส (Mads
Mikkelsen) อดีตศิษย์ของเอนเชียน วันที่ถูกครอบงำด้วยด้านมืด
ดูจบแรกๆ ดิฉันไม่ได้ชอบหนังในทันทีนะครับ
คืออารมณ์ตอนออกจากโรงมันประมาณว่า “ก็สนุกดี” แต่เหมือนใจมันบอกว่ายังไม่สุด
ครั้นพอเวลาผ่านไปสักครึ่งวัน สมองและอารมณ์ก็เริ่มประมวลผลจนได้ข้อสรุปว่า
หนังทำได้ดีในแนวทางของมัน เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้มีลูกเล่นหรือความหวือหวามาชูรสเท่านั้นเอง
และอยากจะบอกว่าลึกๆ แล้วดิฉันเริ่มรู้สึกว่าหนังฮีโร่ Marvel เรื่องนี้ รสชาติแปลกออกไป เพราะดูแล้วรู้สึกถึง “ความเป็นผู้ใหญ่”
มากขึ้น… จึงไม่แปลกที่ความสนุกอร่อยลิ้นบางชนิดจะลดลงไปบ้าง
ถึงจุดนี้ก็แอบรู้สึกเหมือนกัน ว่าเราก็คงติดลูกเล่นในหนัง
เหมือนติดรสหวานในอาหารนั่นแหละ ดังนั้นดิฉันเชื่อว่าหากท่านสามารถปรับใจได้ก่อนดู
ก็น่าจะสนุกกับหนังได้มากขึ้นพอสมควรล่ะครับ
สิ่งแรกที่ผมชอบคือเนื้อเรื่องครับ
ชอบที่ทีมงานเน้นเล่าแค่พล็อตที่มันหลักๆ ไม่ได้มีพล็อตรองอะไรมากมาย
ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะหนังหลายเรื่องสนุกน้อยลงเพราะพล็อตทั้งหลักทั้งรองมันเยอะเกินไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น